Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

รวมเคล็ดลับ สร้างแบรนด์ยังไงให้ปัง ฮิตติดตลาด ที่หลายคนอาจมองข้าม!

รวมเคล็ดลับ สร้างแบรนด์ยังไงให้ปัง ฮิตติดตลาด ที่หลายคนอาจมองข้าม !

Brand คือ ภาพลักษณ์ และมุมมองความคิดที่ลูกค้ามีต่อสินค้า เป็นความรู้สึกที่ถูกสื่อสารผ่านสิ่งที่เกี่ยวกับแบรนด์ โดยแบรนด์นั้นควรจะเป็นที่น่าจดจำ ลูกค้าสามารถจำแนกสินค้าได้ว่าเป็นของแบรนด์ไหน แต่ที่น่าสงสัยนั่นก็คือ จะทำอย่างไรให้เป็นที่รู้จัก น่าจดจำ และกลับมาซื้อ หรือใช้บริการแบรนด์ของเราอีกครั้งได้

ซึ่งการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ ควรจะเริ่มต้นตั้งแต่การวางแผน การดำเนินการ ไปจนถึงสินค้า และบริการ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ การออกแบบแพคเกจจิ้ง รูปแบบของสินค้า โลโก้ สัญลักษณ์ หรือแม้กระทั่งประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ลูกค้าได้รับ โดยการสร้างแบรนด์ที่ดี ทำยังไงให้ฮิตติดตลาด มีแต่คนรู้จัก ทาง อ.ชัญ Thelucky ได้รวมเคล็ดลับสำคัญในการสร้างแบรนด์ ที่หลายคนอาจมองข้าม มาไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ

1. การสร้างแบรนด์ต้องดูกลุ่มเป้าหมาย

ในการที่จะสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญที่ต้องมุ่งเน้น นั่นก็คือ การกำหนดและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการกำหนดกลุ่มเป้าหมายควรกำหนดให้ชัดเจน เช่น เพศ ช่วงอายุ กำลังซื้อ เพราะเมื่อเข้าใจว่าลูกค้าของท่านคือใคร ต้องการอะไร จะทำให้สามารถสร้างและออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม เช่น กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิง อยู่ในช่วงวัยรุ่นอายุ 16-25 ปี ต้องการผลิตภัณฑ์สินค้าประเภทขนมทานเล่นที่ดีต่อสุขภาพ น้ำมันน้อย เป็นต้น

2. สร้างแบรนด์ให้มีจุดเด่นและแตกต่าง

หลังจากรู้จักกลุ่มเป้าหมาย แล้วทราบว่าควรดำเนินทิศทางของแบรนด์ไปในทางใด ต้องมาดูกันต่อว่า จุดแข็งของแบรนด์ หรือเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของแบรนด์นั้นคืออะไร ระหว่างท่านและคู่แข่งมีความแตกต่างกันอย่างไร

โดยข้อมูลเหล่านี้จะทำให้สามารถสร้างจุดยืน หรืออีกความหมายหนึ่งนั่นก็คือ สิ่งที่ใครได้เห็น ได้ยิน ก็ต้องนึกออกว่าเป็นแบรนด์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ การตั้งราคาสินค้า ชื่อแบรนด์ที่ติดหู หรือการบริการที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

ยกตัวอย่าง เช่น แบรนด์ขนมทานเล่นเพื่อสุขภาพ จุดเด่นของแบรนด์คือ ใช้ฟักทองที่ไร้ปลอดสารพิษจากเกษตรกรไทย มาขึ้นรูปเป็นขนมสุขภาพ ไม่ผ่านการทอด ไร้น้ำมัน ไม่มีน้ำตาล ได้ความหวานจากฟักทองแท้ ๆ ราคาจับต้องได้ โดยมีราคาที่ถูกกว่าในท้องตลาดส่วนใหญ่ เป็นต้น

3. อย่าลืม! วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย

หลังจากที่รู้ว่าต้องการจะทำอะไร และมีจุดเด่นในผลิตภัณฑ์ของเราแล้ว ต่อมาจะเป็นการวิเคราะห์หาข้อดีและข้อเสียของแบรนด์ อาจจะเป็นการคิดในแง่ของลูกค้าว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร โดยข้อดีนั้นสามารถพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ส่วนข้อเสียที่คาดว่าจะมีควรทำการแก้ไขปรับปรุง เพื่อลดการเกิดปัญหาในอนาคตให้น้อยที่สุด

ตัวอย่าง แบรนด์ขนมทานเล่นเพื่อสุขภาพ ข้อดี คือ ทำจากฟักทองแท้ ๆ ไร้น้ำมัน ไม่มีน้ำตาล อาจจะมีการพัฒนาเพิ่มเติมให้มีหลากหลายรสชาติ ไม่ใส่ผงชูรส ในส่วนข้อเสียของแบรนด์ อาจจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยสะดุดตา แต่อาจจะถูกออกแบบให้แกะยาก ทำให้ต้องมีการออกแบบใหม่ที่ต้องมีความโดดเด่น และเปิดง่ายในเวลาเดียวกัน เป็นต้น

4. สร้างแบรนด์ให้น่าจดจำ ด้วยชื่อแบรนด์ โลโก้ และบรรจุภัณฑ์

ในส่วนของชื่อแบรนด์ โลโก้ และแพคเกจจิ้งของผลิตภัณฑ์ เปรียบเสมือนหน้าตาของแบรนด์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก ซึ่งทั้งสามอย่างที่กล่าวมาก็ควรมีความสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของตัวแบรนด์ และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้จดจำได้ง่าย และติดตลาด

4.1 ตั้งชื่อแบรนด์ที่ดี

การตั้งชื่อเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากการใช้ชื่อแบรนด์ที่ดี มีเอกลักษณ์ ติดหู สามารถสื่อถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์ได้ง่ายที่สุด จะทำให้แบรนด์ของคุณนั้นเป็นที่จดจำได้ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้น การตั้งชื่อควรเป็นชื่อที่จดจำง่าย สั้น ๆ อ่านชื่อแล้วออกเสียงไม่เหมือนกับแบรนด์อื่น เพื่อไม่ให้ลูกค้าเกิดความสับสน

และที่สำคัญชื่อแบรนด์ควรมีความหมายดี เป็นมงคล โดยชื่อจะมีการวิเคราะห์ผ่านหลักเลขศาสตร์ จะมีการนำเอาอักษร สระ วรรณยุกต์ต่าง ๆ ในภาษาไทย และตัวอักษรภาษาอังกฤษมาถอดเป็นตัวเลข 9 ตัว ซึ่งผลรวมของเลขควรอยู่ในกลุ่มเลขศาสตร์ที่เป็นมงคล และส่งผลดีต่อธุรกิจมาใช้ในการตั้งชื่อแบรนด์ จะช่วยส่งเสริมดวงชาตากิจการให้เจริญก้าวหน้า ร่ำรวย ประสบความสำเร็จได้โดยง่าย ตัวอย่างเช่น

  • แบรนด์ Dior เมื่อถอดค่าทางเลขศาสตร์ จะได้เลข 14 ซึ่งเป็นเลขที่ดีมาก อิทธิพลของเลขนี้ ส่งผลให้ธุรกิจมีความรุ่งโรจน์อย่างมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง มีชื่อเสียงโด่งดัง สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ทั้งยังมีคนที่ชื่นชอบ ติดต่อสื่อสารระหว่างธุรกิจได้อย่างราบรื่น มีคู่ค้าคู่วางแผนที่ดีที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

จะเห็นได้ว่าแบรนด์สินค้าชั้นนำก็ไม่ละเลยที่จะใช้ชื่อแบรนด์มงคลเช่นเดียวกันค่ะ

4.2 สิ่งที่ควรรู้ในการออกแบบโลโก้

โลโก้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์เท่านั้น แต่การออกแบบโลโก้ที่ดี ยังสามารถเพิ่มความหน้าเชื่อถือ การแสดงตัวตน และสื่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งการออกแบบโลโก้ที่ดี นอกจากการพิจารณาในเรื่องของดีไซน์ ควรมีความสอดคล้องกับแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมาย การใช้สีที่เสริมธาตุตามหลักฮวงจุ้ยจีน ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาจากวันเดือนปีเกิดเจ้าของกิจการ และหุ้นส่วนประกอบ ซึ่งแบ่งเป็น 5 ธาตุได้แก่ ดิน น้ำ ไม้ ทอง ไฟ จะช่วยส่งเสริมธุรกิจ และเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า

  • ตัวอย่าง การออกแบบโลโก้ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก ควรเลือกใช้ตัวอักษร (Font) ที่ดูสนุกสนาน ภาพสีสันสดใส โดดเด่น โลโก้ไม่ควรมีความซับซ้อนเกินไป เพราะกลุ่มเป้าหมายจะจดจำได้ยาก ที่สำคัญไม่ควรคัดลอก (Copy) โลโก้ของแบรนด์อื่น นอกจากจะไม่มีเอกลักษณ์ เกิดความสับสน อาจจะเกิดการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้

4.3 การออกแบบบรรจุภัณฑ์

สิ่งที่สำคัญสำหรับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ หรือแพคเกจจิ้ง (Packaging) ต้องมีการออกแบบให้เหมาะสมกับแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมาย มีสีสัน ลวดลายที่ดึงดูดสายตา โดยอาจมีการเลือกใช้สีที่เสริมธาตุตามหลักฮวงจุ้ยจีน ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาจากวันเดือนปีเกิด เจ้าของกิจการและหุ้นส่วนประกอบ เพื่อเสริมความเป็นมงคลให้กับทางแบรนด์ รวมไปถึงรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรง ปลอดภัย สะดวกต่อการใช้งาน หรือจับถนัดมือ ที่สำคัญควรระบุข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าให้ครบถ้วน

โดยบรรจุภัณฑ์ที่ดีมีเอกลักษณ์ ย่อมได้เปรียบในเรื่องของประสบการณ์ หรือความประทับใจแรกของลูกค้าเสมอ ดังนั้นนอกจากตัวสินค้าที่มีคุณภาพ รวมไปถึงชื่อ โลโก้ ที่สามารถถ่ายทอดความเป็นตัวตนของแบรนด์ได้แล้ว เรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอีกอย่างหนึ่งก็คือบรรจุภัณฑ์ที่ดีนั่นเอง

5. สร้างความเชื่อถือให้กับแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมาย

หลังจากวางแผนแบรนด์สินค้าของเราเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดจำหน่าย ทางแบรนด์จะต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองก่อนว่าสินค้าและแบรนด์ของเรานั้นมีประสิทธิภาพดี ปลอดภัย การที่แบรนด์หรือสินค้าของเราจะเป็นที่นิยมของกลุ่มเป้าหมายได้ ทางแบรนด์จะต้องมีความน่าเชื่อถือเสียก่อน

ตัวอย่างเช่น การโฆษณาโดยใช้วิดีโอที่มีการทดสอบผลิตภัณฑ์ การวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับวัตถุดิบในส่วนผสมที่ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย หรือในกรณีที่เป็นอาหาร ยา เครื่องสำอาง ก็ควรมีการตรวจสอบกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นต้น

หลังจากนั้นลองทดสอบกับกลุ่มเป้าหมายเล็ก ๆ เพื่อดูผลตอบรับที่ได้ ถ้าผลตอบรับดีค่อยเริ่มขยับขยายออกไป และหากพบเจอปัญหาจะได้ปรับปรุง พัฒนาสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเจอให้มากที่สุด

6. ทำการตลาดแบบหลายช่องทาง

ในปัจจุบันมีช่องทางการตลาดที่หลากหลาย และช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์สินค้าของเราได้มากขึ้น ดังนั้น ถ้าสามารถทำการตลาดได้มากกว่า 1 ช่องทาง ก็จะช่วยให้เรามีโอกาสได้ลูกค้าที่มากขึ้นด้วย เช่น สื่อโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook, Instagram, Tiktok, การยิงโฆษณาใน Google, Youtube, Blogger review และการทำอีเวนต์ออนไลน์ เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าในการสร้างแบรนด์สินค้าให้ได้รับความนิยม เป็นที่รู้จัก และจดจำแบรนด์ของเราได้นั้น มีความสำคัญในทุก ๆ ขั้นตอน ดังนั้นควรให้ความสำคัญตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งการวางแผน การดำเนินการ ไปจนถึงสินค้า และบริการ โดยเฉพาะการเลือกใช้ชื่อแบรนด์ โลโก้ และบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ที่สามารถทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายที่สุด ฉะนั้น ทั้งสามอย่างที่กล่าวถึง ควรมีการออกแบบให้สอดคล้องกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย มีความสิริมงคลตามหลักฮวงจุ้ย รวมไปถึงความชัดเจน ทั้งในเรื่องความหมาย เอกลักษณ์ และจุดเด่น

✦ ถ้าท่านกำลังมองหาชื่อแบรนด์มงคล โลโก้แบรนด์ หรือบรรจุภัณฑ์ 

สามารถติดต่อสอบถามกับทาง อ.ชัญ ได้ที่ Line: @theluckyname โดย อ.ชัญ จะตั้งชื่อแบรนด์ผ่านการวิเคราะห์หลักเลขศาสตร์ ซึ่งจะได้ชื่อแบรนด์ที่เป็นมงคล ไม่ซ้ำใคร ในส่วนของโลโก้และบรรจุภัณฑ์ (Packaging) จะเลือกใช้สีที่เสริมธาตุตามหลักฮวงจุ้ยจีน โดยพิจารณาจากวันเดือนปีเกิด เจ้าของกิจการ และหุ้นส่วนประกอบ เพื่อเสริมความเป็นมงคลให้กับทางแบรนด์ และเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ด้วยค่ะ