8 เทคนิคในการตั้งชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้านให้เฮงและปัง

“การตั้งชื่อบริษัท หรือสินค้านั้นเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะคนอื่นจะรู้จักสินค้าคุณ ก็มาจากชื่อบริษัท หรือชื่อสินค้านี่แหล่ะ เหมือนคนต้องมีชื่อ และมันจะเป็นชื่อที่คุณจะต้องใช้ในการทำการตลาดด้วย ชื่อบริษัทมีผลต่อภาพลักษณ์และจุดยืนในตลาด ดังนั้นอย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆ นะคะ “

  หลายๆ คนเมื่อจะตั้งชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้าน จะหนักใจกับการตั้งชื่อว่าจะตั้งออกมาอย่างไรดี ไม่แพ้กับนั่งกลุ้มใจเรื่องการตลาดเลยทีเดียว การชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้านที่เหมาะสม จะช่วยทำให้ดูแตกต่างจากคู่แข่งทางธุรกิจ และยังช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับบริษัทได้อีกด้วย ถึงแม้ชื่อบริษัทอาจจะไม่ได้มีผลโดยตรงกับการทำงานของบริษัท หรือเพิ่มยอดขาย แต่เราก็ควรพิจารณาหลักการต่อไปนี้ เมื่อเริ่มคิดจะตั้งชื่อบริษัท เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่งนะคะ

           การตั้งชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้านนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่จะต้องดูชื่อที่เป็นมงคลตามหลักเลขศาสตร์ประกอบด้วย การใช้ชื่อที่ได้ผลรวมเลขศาสตร์ที่ดีนั้น ย่อมส่งผลให้มีความเจริญรุ่งเรือง และความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งได้เลยค่ะ

          heart เลขศาสตร์ที่แนะนำสำหรับการตั้งชื่อ บริษัทที่เสริมดวงกิจการให้เฮงและปัง ได้แก่เลข 36 41 42 45 50 51 55 59 63 65 เป็นต้นค่ะheart

1.ชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้านมงคลของกิจการ

เลือกใช้ชื่อที่มีความเป็นสิริมงคล หากได้ชื่อที่ถูกใจแล้วก็อย่าลืมตรวจสอบว่าชื่อที่ใช้นั้น ดีในทางหลักโหราศาสตร์ด้วยหรือไม่ เป็นชื่อที่ช่วยส่งเสริมดวงชาตา กิจการให้เจริญก้าวหน้า ร่ำรวยหรือไม่ ยกตัวอย่างบริษัทที่ใช้ชื่อที่เป็นมงคลที่หลายคนคงคุ้นหูกัน ได้แก่ เจริญโภคภัณฑ์ พบว่าถอดค่าทางเลขศาสตร์ได้เลข 51 ซึ่งเป็นเลขที่ดีมากๆ  อิทธิพลของเลขนี้ ส่งผลให้ กิจการที่ทำอยู่มักมีผู้อุปถัมภ์เป็นอย่างดี  ทำกิจการหรือมีหุ้นส่วนค่อนข้างดีมาก มีความสามารถรอบด้านไม่ว่าจะเป็น ด้านวิชาการ หรือ ด้านศิลปะ มีความคิดที่ลึกซึ้ง จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทั้งทางด้านครอบครัวและด้านสินทรัพย์ฐานะร่ำรวย 

2.ความหมายชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้านดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

ชื่อที่มีความหมายที่ดีเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ร้าน แสดงจุดยืน ภาพลักษณ์ของร้าน ลูกค้าหลายคนอาจถูกใจความหมายดี ๆ ของชื่อร้านจนนำมาสู่การเลือกซื้อสินค้าและตัดสินใจซื้อในที่สุด
เช่น ร้านเสื้อผ้าผู้ชาย อาจจะตั้งชื่อว่า Alano (อลาโน่) ที่แปลว่า หนุ่มรูปงาม
ร้านดอกไม้ อาจจะตั้งชื่อว่า Olivia (โอลิเวีย) ที่แปลว่า สัญลักษณ์แห่งความสงบสุข

3.ชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้านสะกดง่าย ออกเสียงไม่ยาก

ชื่อร้าน ที่คุณตั้งควรเป็นชื่อที่สะกดและออกเสียงเรียกได้ไม่ยาก เพราะจะทำให้ลูกค้าจดจำได้รวดเร็วและไม่ลืมง่าย ๆ หากตั้งชื่อร้านที่ยากเกินไปอาจทำให้ลูกค้าไม่กล้าที่จะออกเสียง เพราะกลัวเรียกชื่อร้านผิด
เช่น ร้านเบเกอรี่สุดน่ารักที่ชื่อว่า พอใจโฮมคาเฟ่ (Porjai Home Cafe)
ร้านอาหารชื่อดังที่ใช้ชื่อว่า ครัวดอกไม้ขาว (White Flower Restaurant)

4.ชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้านใช้ชื่อไม่ยาว หลีกเลี่ยงชื่อย่อ

การใช้ชื่อย่อนั้นอาจทำให้ง่ายต่อการโฆษณา และการสื่อสารที่ง่ายขึ้นก็จริง แต่ในบริษัทเล็ก ๆ หรือขนาดกลางนั้น การใช้ชื่อย่อจะทำให้ลูกค้าที่ไม่ทราบว่าคุณทำธุรกิจด้านใด เกี่ยวกับอะไร เพื่อให้ลูกค้าจดจำและเข้าใจความหมายได้ไม่ยาก
เช่น ร้านหนังสือสุดอินดี้ ร้านเล่า
ร้านที่มีทั้งเบเกอรี่ และเครื่องดื่ม A cup a cake

5.ชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้าน โดดเด่น สะดุดตา ตรงกับภาพลักษณ์

การทำให้ชื่อร้านโดดเด่น สะดุดตา จะช่วยดึงความสนใจของลูกค้ามาที่ร้านของคุณได้ดีอีกหนึ่งวิธี นอกจากจะโดดเด่น สะดุดตาแล้ว ยังตรงตั้งชื่อร้านให้ตรงกับภาพลักษณ์ หรือคอนเซ็ปต์ของร้านก็จะยิ่งทำให้ลูกค้าจดจำร้านของคุณได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
เช่น ชื่อร้านคาเฟ่แมวของผู้กำกับชื่อดังแห่ง GTH ที่ใช้ชื่อร้านว่า Caturday Cat Café
ร้านกาแฟที่ใช้ชื่อสุดเก๋ เรียกไม่ยาก ชื่อร้านว่า ตาสว่างกาแฟสด

6.ชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้าน ไม่ควรซ้ำ หรือใกล้เคียงที่อื่น ๆ

เพราะชื่อร้านที่เหมือนหรือคล้ายกันนั้นจะทำให้ลูกค้าเกิดความเข้าใจผิด สับสน ลังเลในการที่จะเรียกชื่อร้านก็เป็นได้ เพราะนอกจากสร้างความสับสนให้กับลูกค้าแล้วยังทำให้สร้างปัญหาระหว่างเจ้าของธุรกิจด้วยกันเองอีกด้วย ดังนั้นจะตั้งชื่อร้านก็ควรหาข้อมูล สำรวจดูให้ดีว่าไม่มีคนอื่นใช้อยู่ก่อนแล้ว

7.ไม่ตั้งชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้านแบบเฉพาะเจาะจง

ข้อเสียก็มีอยู่ว่าการตั้งชื่อร้านตามสถานที่ตั้งนั้นอาจเป็นข้อจำกัดในอนาคตเมื่อเจ้าของธุรกิจคิดจะขยายสาขาเพิ่ม หรือ ต้องการที่จะเปิดแฟรนไชส์ ทำให้ชื่อร้านที่ตั้งตามทำเลนั้นเป็นปัญหาในอนาคตได้แน่นอน อีกชื่อเฉพาะที่ไม่ควรนำมาตั้งเป็นชื่อร้านคือชื่อเจ้าของธุรกิจนั่นเองจ้า เนื่องจากการนำชื่อของตัวเองมาตั้งชื่อร้านนั้นอาจจะเกิดปัญหาในการจดจำของลูกค้า อีกทั้งชื่อบุคคลยังเป็นชื่อที่ไม่สร้างความดึงดูดใจต่อลูกค้าอีกด้วย และอาจจะเป็นปัญหาหากในอนาคตคุณวางแผนที่จะขยายกิจการ หรือเปิดแฟนไชส์อีกด้วย ยกตัวอย่าง การตั้งชื่อร้านที่บอกสถานที่
เช่น ชื่อร้านว่า บางเขนเครื่องใช้ไฟฟ้า ชื่อร้านว่า สุวินิตการช่าง

8.คิดชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้านง่ายต่อการทำโลโก้

โลโก้สวยงามนั้นคือการตั้งชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ หรือชื่อร้าน ให้สะดุดตา มีความยาวพอดี สามารถดึงดูดให้ลูกค้ามาสนใจได้ เนื่องจากโลโก้ทำหน้าที่เดียวกับชื่อร้านที่จะต้องไปอยู่บนป้าย บนนามบัตร บนสินค้า หรือบนบรรจุภัณฑ์ของร้าน ดังนั้นการตั้งชื่อร้านจึงควรคำนึงด้วยว่าจะเกิดปัญหาต่อการออกแบบโลโก้ร้านหรือไม่ เมื่อได้ ชื่อร้าน ที่ต้องการแล้ว ให้ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ หรือนำชื่อร้านไปให้ในทางที่ผิด

หากใครกำลังมองหาชื่อบริษัทโดยที่มีความชัดเจน ทั้งในเรื่องความหมาย เอกลักษณ์ จุดเด่น ความเป็นมงคลและสมพงศ์กับดวงชาตาเจ้าของกิจการ และหุ้นส่วนเสริมดวงกิจการให้เจริญรุ่งเรืองมั่งคั่ง  อ.ชัญ ก็มีบริการตั้งชื่อบริษัท ค่าครู 2999 จะได้ไป 3   ชื่อบริษัท โดยไม่ซ้ำกับคนอื่น และจะพิจราณาจากหลักเลขศาสตร์ตามภาษาหลัก ในการตั้งชื่อ สามารถเอาไปจดตั้งชื่อบริษัทได้ค่ะ โดยอ.ชัญ จะดูชื่อที่เสริมภาพลักษณ์ของกิจการให้ด้วยค่ะ นอกจากความเป็นมงคล โดยสามารถบอกแนวที่ชอบได้ หรือต้องการให้มีคำว่าอะไรอยู่ในชื่อบริษัท ประเภทของธุรกิจที่ทำ  หรือ ต้องการชื่อที่ส่งเริมดวงชาตาในด้านต่างๆ มาได้ค่ะ

ตัวอย่างผลงานตั้งชื่อบริษัท/แบรนด์มงคล โลโก้บริษัท/แบรนด์ฮวงจุ้ย

Compare listings

เปรียบเทียบ
Malcare WordPress Security