หลาย ๆ ท่านมักจะมีความฝันที่อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งความสำคัญของบ้าน ก็เป็นทั้งสถานที่สร้างความสุข ความผ่อนคลาย เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในครอบครัว อุ่นใจที่ได้อยู่ และเป็นแหล่งพักพิงที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย
ซึ่งในการจะสร้างบ้านขึ้นมาสักหลัง บ้านที่ดีนั้น ควรจะเกื้อหนุนให้พบเจอแต่ความสุข ความเจริญ ความเป็นสิริมงคล จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงหลักของฮวงจุ้ยของบ้านเป็นสำคัญ เพราะฮวงจุ้ยคือวิชาว่าด้วยในเรื่องของสภาพแวดล้อม (ชัยภูมิ) และทิศทาง การจัดบ้านตามฮวงจุ้ยนับว่าเป็นการเสริมพลังให้แก่ผู้อยู่อาศัย จะทำให้ให้ชีวิตของบุคคลนั้นมีการดำเนินไปอย่างมีความสุข มีความสำเร็จตามวาสนา และช่วยบรรเทาอุปสรรคที่จะมีขึ้นในชีวิตลงได้
ฮวงจุ้ย เป็นศาสตร์ที่ชาวจีนให้ความสำคัญมานาน คำว่า “ฮวงจุ้ย” มีรากศัพท์มาจากภาษาจีนคือ
- ฮวง แปลว่า ลม
- จุ้ย แปลว่า น้ำ
ตามคำกล่าวของชาวจีนโบราณได้กล่าวไว้ว่า “พลังชี่มากับลม และจะหยุดเมื่อเจอน้ำ” ดังนั้น ศาสตร์ฮวงจุ้ยคือศิลป์แห่งการควบคุม “ลมและน้ำ” ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมตามกาลเวลาที่เหมาะสม ซึ่งการดูฮวงจุ้ยนั้น พลังชี่ที่ดีต้องสามารถเข้าได้ และถ่ายเทพลังชี่ที่เสีย หรือสามารถปิดกั้นไม่ให้พลังชี่ที่เสียนี้สามารถเข้าสู่สถานที่ที่เราอยู่ได้
จึงสามารถกล่าวสรุปแบบเข้าใจง่ายได้ว่า “ฮวงจุ้ย คือ การหาพลังทิศทาง และความสมดุลของพลังธาตุทั้ง 5 ให้เหมาะสมตามกาลเวลา และสภาพสิ่งแวดล้อมนั้น ๆ”

✦ Tip: พลังชี่ หรือปราณชี่ คือ พลังที่มาจากทิศทางรอบตัวเรา ซึ่งเป็นพลังที่มีอยู่ในทุกสรรพสิ่งของโลก ซึ่งจะแทรกตัวอยู่ในทุกสิ่ง และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตา หรือจับต้องด้วยมือ
องค์ประกอบของฮวงจุ้ย
โดยฮวงจุ้ยนั้นจะใช้ 2 องค์ประกอบในการดู ถ้าใช้เพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง จะไม่สามารถส่งผลดีหรือผลร้ายได้ จะส่งผลได้ก็ต่อเมื่อต้องใช้ 2 องค์ประกอบร่วมกัน โดยชัยภูมิก็ต้องมีพลังทิศทาง ทำงานส่งพลังชี่ รวมไปถึง พลังทิศทางก็ต้องมีชัยภูมิสนับสนุนการทำงานด้วยเช่นกัน
ชัยภูมิ (หล่วงเท้า)
ฮวงจุ้ยในส่วนของทำเลที่ตั้ง และสิ่งแวดล้อมรอบด้าน (มองเห็นด้วยตาจับต้องด้วยมือ) ที่อยู่อาศัย จะช่วยในการหนุนเสริมดวงชะตาให้กับผู้อยู่อาศัย สามารถชักนำเอาพลังแห่งจักรวาลมาหมุนเวียนภายในบ้าน- พลังทิศทาง (หลี่ชี่)
ฮวงจุ้ยในส่วนของทิศ พลังทิศทาง พลังชี่ของแต่ละทิศทาง เป็นพลังชี่รุ่งเรือง หรือพลังชี่เสื่อมโทรมของแต่ละยุคสมัย (มองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้)
ในบทความนี้ทาง Theluckyspace จะเจาะลึกรายละเอียดในส่วนของ พลังทิศทาง (ฮวงจุ้ยทิศทาง) ว่าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร ไปติดตามกันเลยค่ะ
พลังทิศทาง (ปราณชี่ - หลี่ชี่) คืออะไร?
ชี่ (จีนกลาง) หรือขี่ (แต้จิ๋ว) คือ พลังที่มาจากทิศทางรอบตัวเรา หรือที่เรียกว่า พลังจักรวาล หรือปราณชี่ ฮวงจุ้ยเชื่อว่าทุกอย่างล้วนมีชี่เป็นพลังที่มีอยู่ในทุกสรรพสิ่งของโลก แทรกตัวอยู่ในทุกอย่าง เป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาหรือจับต้องด้วยมือ โดยปราณชี่ คือ ธาตุต่าง ๆ 5 ธาตุ (เบญจธาตุ) ซึ่งประกอบด้วย ทอง น้ำ ไม้ ไฟ และดิน ซึ่งมีทั้งพลังก่อกำเนิด ส่งเสริมซึ่งกันและกัน และพิฆาตทำลายล้าง ที่บั่นทอนซึ่งกันและกัน

ต่อมานักปราชญ์จีนได้ค้นพบว่า โลกคือสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ และมีกระแสแม่เหล็กที่ก่อให้เกิดปราณชี่ 8 พลัง (8 ข่วย) 24 ทิศทาง (24 ซัว) 64 ปฏิกิริยา (64 ข่วย) แล้วส่งผลกระทบต่อมนุษย์ที่แตกต่างกันออกไป
โป๊ยข่วย กับการดูทิศบ้าน
โป๊ยข่วย มาจากคำว่า โป๊ย แปลว่า แปด ส่วน ข่วย แปลว่า ทิศ รวมกันแล้วจะแปลว่า 8 ทิศ ลักษณะของโป๊ยข่วยจะมีลักษณะเป็น 8 เหลี่ยมมีความหมายแทน 8 ทิศ ภายในจะมีเส้นขีดเต็ม และเส้นประอยู่ประจำตำแหน่งในแต่ละทิศ และในแต่ละทิศก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป
ข่วย คืออะไร
ข่วย แปลว่า ทิศ โดยการเขียนข่วย เริ่มจากในสมัยของฮกฮี ที่ยังไม่มีตัวอักษรจารึก ทำให้มีการใช้สัญลักษณ์ง่าย ๆ 2 แบบคือ
- เส้นหยาง แทนด้วย เส้นเต็ม
- เส้นหยิน แทนด้วย เส้นประ

ข่วย เกิดจากการนำเส้นหยางและเส้นหยินมารวมกัน (จำนวน 3 เส้น รวมกันเป็น 1 ข่วย) จึงก่อให้เกิดสัญลักษณ์ที่สามารถแบ่งแยกตามสภาพธรรมชาติได้ 8 รูปแบบ และนำมาวางตำแหน่งลงบนแผนภาพเกิดเป็นทิศทั้ง 8 โดยจะมีชื่อเรียกของข่วยทั้ง 8 ดังนี้
ชื่อของข่วยทั้ง 8
เคี้ยง (สามขีดเต็ม)
- สัญลักษณ์ : ธาตุทอง สีขาว สีทอง สีเงิน
- ความหมาย : พ่อ

คุง (สามขีดขาด)
- สัญลักษณ์ : ธาตุดิน สีเหลือง สีน้ำตาลเข้ม
- ความหมาย : แม่

จิ้ง (ขีดล่างเต็ม)
- สัญลักษณ์ : ธาตุไม้ สีเขียว สีน้ำตาลอ่อน (สีเนื้อไม้)
- ความหมาย : ลูกชายคนโต

สุ่ง (ขีดล่างขาด)
- สัญลักษณ์ : ธาตุไม้ สีเขียว สีน้ำตาลอ่อน (สีเนื้อไม้)
- ความหมาย : ลูกสาวคนโต

ค่ำ (ขีดกลางเต็ม)
- สัญลักษณ์ : ธาตุน้ำ สีดำ สีน้ำเงิน สีเทา สีฟ้า
- ความหมาย : ลูกชายคนกลาง

ลี้ (ขีดกลางขาด)
- สัญลักษณ์ : ธาตุไฟ สีแดง สีแสด สีม่วง
- ความหมาย : ลูกสาวคนกลาง

กึ่ง (ขีดบนเต็ม)
- สัญลักษณ์ : ธาตุดิน สีเหลือง สีน้ำตาลเข้ม
- ความหมาย : ลูกชายคนเล็ก

ต๋วย (ขีดบนขาด)
- สัญลักษณ์ : ธาตุทอง สีขาว สีทอง สีเงิน
- ความหมาย : ลูกสาวคนเล็ก

ประเภทของโป๊ยข่วย
โดยโป๊ยข่วยถูกแบ่งเป็น 2 แบบ คือ โป๊ยข่วยก่อนฟ้า และโป๊ยข่วยหลังฟ้า
ผังโป๊ยข่วยก่อนฟ้า (โซยทีโป๊ยข่วย / ฮกฮีโป๊ยข่วย)
การกำเนิดโป๊ยข่วยก่อนฟ้า ตามตำนานกล่าวว่า ท่านฮกฮี มีพ่อเป็นมังกร ทำให้ตนเองมีอายุยืน ด้วยความอยากรู้ถึงธรรมชาติจึงเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ เช่น ยามดวงอาทิตย์คล้อยลง ดวงจันทร์จะขึ้นมาแทน การโคจรของดวงดาว ภูเขาที่สูงตระหง่านกับภูเขาที่เป็นหุบเหวลึกลงไป น้ำขึ้นน้ำลง น้ำที่ไหลกับน้ำที่หยุดนิ่ง
เนื่องจากในสมัยก่อนยังไม่ได้มีการคิดค้นตัวอักษรเพื่อใช้บันทึกสิ่งต่าง ๆ จึงใช้สัญลักษณ์ง่าย ๆ 2 แบบ คือ เส้นหยิน (เส้นประ) และเส้นหยาง (เส้นเต็ม) นำมาวางตำแหน่งลงบนแผนภาพ โดยใช้สัญลักษณ์จากการผสมผสานระหว่างเส้นหยิน-หยางทั้งหมด 3 เส้น (ข่วย) เป็นตัวแทนของทิศ / ธรรมชาติทั้ง 8

โป๊ยข่วยก่อนฟ้า เป็นแผนผังที่มีอิทธิพลต่อเนื้อหาวิชาฮวงจุ้ย รวมถึงสอดแทรกอยู่ในศาสนาและวัฒนธรรมของชาวจีน โดยแผนภูมิก่อนฟ้า คือการจำลองพลังงานของจักรวาลที่ประกอบด้วย 5 ธาตุ คือ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุไฟ และความสมดุลของพลังงานก่อนที่จะกำเนิดโลกเอาไว้ในแผนภูมิโป๊ยข่วยก่อนฟ้า
- ทิศเหนือ – คุง – แม่
- ทิศใต้ – เคี้ยง – พ่อ
- ทิศตะวันออก – ลี้ – ลูกสาวคนกลาง
- ทิศตะวันตก – ค่ำ – ลูกชายคนกลาง
- ตะวันตกเฉียงใต้ – สุ่ง – ลูกสาวคนโต
- ตะวันออกเฉียงเหนือ – จิ้ง – ลูกชายคนโต
- ตะวันตกเฉียงเหนือ – กึ่ง – ลูกชายคนเล็ก
- ตะวันออกเฉียงใต้ – ต๋วย – ลูกสาวคนเล็ก

ซึ่งผังนี้คือการเคลื่อนไหวของจักรวาล โดยที่ฮวงจุ้ยนำมาใช้ในการต้านพลังพิฆาตต่าง ๆ นอกจากนี้ชาวจีนยังเชื่อว่า พลังจักรวาลโป๊ยข่วยก่อนฟ้า จะช่วยปรับสมดุลพลังงานของธาตุในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ชีวิตมีความสงบสุข ราบรื่น
ผังโป๊ยข่วยหลังฟ้า (โจวอี้โป๊ยข่วย / เอ่าทีโป๊ยข่วย)
หลังจากสมัยฮกฮี ในยุคสมัยของฮ่องเต้เซียงติ๋วครองแผ่นดิน เนื่องจากฮ่องเต้ไม่บริหารราชการ ไม่ดูแลทุกข์สุขของแผ่นดิน ความเดือดร้อนนี้ทำให้ จิวบุ้งอ้วง (โจวเหวินหวัง) ซึ่งเป็นขุนนาง กราบทูลให้พระองค์ทรงปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรม แต่นั่นทำให้ฮ่องเต้พิโรธ ทำให้จิวบุ้งอ้วงถูกคุมขังไว้ในเรือนจำ เป็นเวลานานกว่า 7 ปี
ซึ่งตลอด 7 ปีที่อยู่ในที่คุมขัง จิวบุ้งอ้วง ได้ค้นคว้าเรื่องราวเกี่ยวกับ “ผังโป๊ยข่วยก่อนฟ้า” (ฮกฮีโป๊ยข่วย) และได้ทำการปรับเปลี่ยนตำแหน่งทั้ง 8 ใหม่ จึงได้แผนภาพใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า “โจวอี้โป๊ยข่วย” หรือ “เอ่าทีโป๊ยข่วย” (ผังโป๊ยข่วยหลังฟ้า)

- ทิศเหนือ – ค่ำ – ลูกชายคนกลาง
- ทิศใต้ – ลี้ – ลูกสาวคนกลาง
- ทิศตะวันออก – จิ้ง – ลูกชายคนโต
- ทิศตะวันตก – ต๋วย – ลูกสาวคนเล็ก
- ตะวันตกเฉียงใต้ – คุง – แม่
- ตะวันออกเฉียงเหนือ – กึ่ง – ลูกชายคนเล็ก
- ตะวันตกเฉียงเหนือ – เคี้ยง – พ่อ
- ตะวันออกเฉียงใต้ – สุ่ง – ลูกสาวคนโต

โดยป๊วยข่วยหลังฟ้า ในส่วนของฮวงจุ้ยจะใช้ในการคำนวณหาพลังดาว 9 ยุค ลักษณะเด่นของโป๊ยข่วยหลังฟ้า คือ ใช้ภาพและสัญลักษณ์ใน 8 ทิศ เพื่ออธิบายปรากฎการณ์ของโลก และนำพลังงานของโลกมาจัดบ้าน
ความแตกต่างระหว่างโป๊ยข่วยก่อนฟ้าและหลังฟ้า
ทั้งโป๊ยข่วยก่อนฟ้า และโป๊ยข่วยหลังฟ้า ข้อแตกต่างของทั้ง 2 แบบ คือ

- โป๊ยข่วยก่อนฟ้า และโป๊ยข่วยหลังฟ้ามีการวางตำแหน่งทิศไม่เหมือนกัน ในส่วนชื่อเรียกของข่วย พลังธาตุและความหมายต่าง ๆ ยังคงเดิม
- โป๊ยข่วยก่อนฟ้า คือการเคลื่อนไหวของจักรวาล นำมาใช้ในการต้านพลังพิฆาตต่าง ๆ ช่วยปรับสมดุลพลังงานของธาตุในชีวิตประจำวัน แต่โป๊ยข่วยหลังฟ้าจะใช้ในการคำนวณหาพลังดาว 9 ยุค เพื่ออธิบายปรากฎการณ์ของโลก และนำพลังงานของโลกมาจัดบ้าน
รูปทรงบ้านและทิศทาง - บ้านเว้าแหว่ง
บ้านในสมัยก่อนจะเป็นบ้านที่ออกแบบง่าย ๆ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบ้านในรูปแบบนี้จะเป็นบ้านที่มีความสมดุล ไม่มีมุมเว้าแหว่ง เป็นบ้านในอุดมคติของซินแส ส่วนบ้านยุคใหม่ออกแบบก่อสร้างบ้านให้มีรูปทรงที่แปลกตาทันสมัย มีความสวยงามแตกต่างจากสมัยก่อน แต่ส่วนใหญ่บ้านจะมีมุมแหว่ง ไม่ทิศใดก็ทิศหนึ่ง หากมุมไหนของบ้านขาดแหว่งจะส่งผลกระทบกับคนในครอบครัว
ซึ่งในการวิเคราะห์รูปทรงบ้านและทิศทางที่เข้าสู่ตัวบ้าน ควรทำความเข้าใจพื้นฐานฮวงจุ้ยเกี่ยวกับเรื่องทิศ โดยจะใช้ความหมายกับทิศทั้ง 8 ซึ่งถ้าหากเกิดอะไรกับทิศต่าง ๆ ก็สามารถนำมาพยากรณ์ว่าจะดีหรือจะร้ายได้ โดยใช้ผังหลังฟ้า (อ่าวทีโป๊ยข่วย) เป็นหลักในการดูฮวงจุ้ยในส่วนของทรงบ้านและทิศทาง
รูปแบบบ้านเว้าแหว่งต่าง ๆ
จากผังโป๊ยข่วยหลังฟ้า ข่วยจะอยู่ประจำทิศต่าง ๆ ซึ่งแต่ละทิศก็จะสื่อถึงบุคคลในครอบครัว หรืออวัยวะที่อยู่ประจำทิศนั้น ในกรณีที่บ้านแหว่งในทิศไหนก็จะส่งผลกับบุคคล หรืออวัยวะในทิศนั้น ทั้งยังมีในกรณีที่แหว่งมากกว่า 1 จุดก็จะส่งผลในส่วนอื่น ๆ ด้วย ซึ่งจะสามารถสรุปให้เข้าใจได้ง่าย ดังนี้

1. บ้านมีมุมแหว่งทางทิศเหนือของบ้าน
ทิศนี้เป็นตัวแทนของลูกชายคนกลาง ตัวแทนของหูและไต ในกรณีที่มีลูกชายคนเดียว ลูกชายคนนี้จะรับผลกระทบโดยตรงมากกว่าคนอื่น ๆ ในครอบครัว มุมแหว่งของทิศนี้จะทำให้มีบุตรได้ยาก ไตอ่อนแอ มีปัญหาเกี่ยวกับหู ระบบขับถ่ายและท่อปัสสาวะควรดูแลเป็นพิเศษ

2. บ้านมีมุมแหว่งทางทิศใต้ของบ้าน
ทิศนี้เป็นตัวแทนของลูกสาวคนกลาง ทั้งยังเป็นทิศมงคล และเป็นตัวแทนของหัวใจ ในทิศนี้มีมุมแหว่ง ทำให้ขาดข่าวที่เป็นมงคล ขาดความยั้งคิด ชอบการเสี่ยงโชคและการพนัน เหนื่อยง่าย และระบบหัวใจมีปัญหา

3. บ้านมีมุมแหว่งทางทิศตะวันออกของบ้าน
ทิศนี้เป็นตัวแทนของลูกชายคนโต ตัวแทนของเท้าและตับ หากมีมุมแหว่งในทิศนี้จะส่งผลให้ลูกชายคนโตเลี้ยงยาก บาดเจ็บบ่อย มีอุบัติเหตุเกี่ยวกับเท้าและตับ

4. บ้านมีมุมแหว่งทางทิศตะวันตกของบ้าน
ทิศนี้เป็นตัวแทนของลูกสาวคนเล็ก และเป็นตัวแทนของปากและปอด มุมแหว่งของทิศนี้จะส่งผลให้ลูกสาวคนเล็กเจ็บป่วยง่าย การงานและการเงินมีอุปสรรค เจ็บป่วยง่าย โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับปอด หายใจไม่สะดวก

5. บ้านมีมุมแหว่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน
ทิศนี้เป็นตัวแทนของแม่หรือหญิงสาวที่มีอายุมากในบ้าน อีกทั้งทิศนี้เป็นตัวแทนของกระเพาะอาหารและลำไส้ มุมแหว่งในทิศนี้จะส่งผลต่ออารมณ์และชีวิตด้านความรัก หย่าร้าง แต่งงานใหม่ อวัยวะเกี่ยวกับการย่อยมีปัญหา

6. บ้านมีมุมแหว่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน
ทิศนี้เป็นตัวแทนของลูกชายคนเล็ก และเป็นตัวแทนของมือและม้าม มุมแหว่งของทิศนี้จะส่งผลให้ลูกชายคนเล็กได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร เป็นโรคกระเพาะได้ง่าย มือจะได้รับบาดเจ็บ ทั้งทิศนี้ยังเป็นทิศประตูเกิด จะทำให้การงานและโชคลาภมีอุปสรรค

7. บ้านมีมุมแหว่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ทิศนี้เป็นตัวแทนของพ่อหรือผู้ชายที่มีอายุมากในบ้าน อีกทั้งทิศนี้เป็นตัวแทนของศีรษะ สมอง จะมีเรื่องเจ็บป่วยเกี่ยวกับศีรษะ มีเรื่องปวดหัวประจำ และคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือพ่อ หรือผู้ชายที่อายุมาก

8. บ้านมีมุมแหว่งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้าน
ทิศนี้เป็นตัวแทนของลูกสาวคนโต และตัวแทนของสะโพกและดี มุมแหว่งของทิศนี้จะส่งผลให้ลูกสาวคนโตแต่งงานช้า ถ้าครอบครัวใดมีลูกสาวคนเดียวผลร้ายของทิศนี้จะตกอยู่กับลูกสาวเพียงลำพัง มีปัญหาเกี่ยวกับสะโพก เอว รวมไปถึงการทำงานเกี่ยวกับตับไม่เต็มที่ (ถุงน้ำดีมีโครงสร้างที่ติดต่อกับตับ)

9. บ้านมีมุมแหว่งทางทิศเหนือและทิศใต้ทั้ง 2 ทิศ
ทิศเหนือ-ใต้ เป็นทิศตรง สำหรับฮวงจุ้ยทิศตรงเป็นทิศที่มีพลังเสน่ห์ของธรรมชาติ ปกติแล้วถ้ามุมแหว่งเพียง 1 มุม จะส่งผลร้ายตามทิศที่หายไป ยิ่งถ้ามีมุมขาดแหว่งใน 2 มุม ผลร้ายก็จะทวีเพิ่มมากขึ้น 2 เท่า โดยทำให้คนในบ้านขาดสติปัญญาและขาดความยั้งคิด เกิดคดีความ หรือรู้ไม่เท่าทันผู้อื่น จะเจอโรคภัยและระบบภายในบ้านเกี่ยวกับไฟและน้ำรุมเร้า

10. บ้านมีมุมแหว่งทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก
ทิศตะวันออกเป็นตัวแทนของความเมตตา ทิศตะวันตกเป็นตัวแทนของคุณธรรม หากมุมขาดแหว่งใน 2 ทิศนี้ จะทำให้กระทบต่อสภาพอารมณ์และการตัดสินใจของคนในบ้าน มีแต่ความโลภและการเอาเปรียบ ปราศจากความยั้งคิด โชคลาภหดหาย เจ็บป่วยด้วยโรคตับ ไขมันในเลือด ภูมิแพ้ โรคเกี่ยวกับปอดและหลอดลม

11. บ้านมีมุมแหว่งในสี่ทิศเฉียง (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-เฉียงใต้ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-เฉียงใต้)
หากใน 4 ทิศมีมุมแหว่ง พลังร้ายที่เกิดจากมุมแหลมของบ้านจะไปกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ไม่ดี เสี่ยงกับคดีความ เสียทรัพย์ มีการเปลี่ยนแปลงที่ผันผวนอยู่บ่อยครั้งและทำให้กระทบกระเทือนจิตใจ
การที่บ้านแหว่งทั้ง 4 มุม ทำให้อยู่ในรูปทรงบ้านกากบาท ทางฮวงจุ้ยถือว่าเป็นรูปทรงที่เสีย ไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย เพราะจะเต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ

วิธีแก้ฮวงจุ้ยบ้านเว้าแหว่ง
- เติมมุมที่ขาดแหว่งของบ้านให้เต็มรูปสี่เหลี่ยม โดย “ใช้ต้นไม้” ปลูกเป็นรั้วตามขอบแนวของมุมที่ขาดแหว่ง เพื่อใช้ต้นไม้แสดงอาณาเขตพื้นที่ของบ้าน เป็นการเติมเต็มเพื่อสลายปราณพิฆาตของมุมขาดแหว่ง (ต้นไม้ที่ปลูกเป็นรั้วไม่ควรเป็นต้นไม้ที่มีหนาม)
- บางซินแสจะ “ตั้งเสาไฟฟ้า” ตรงมุมของทิศที่ขาดแหว่ง เพื่อให้เสาไฟฟ้าแทนทิศที่ขาดแหว่งเป็นการเติมพื้นที่ให้เต็ม ด้วยการเปิดแสงสว่าง แต่ก็มีข้อเสีย คือเสาไฟฟ้าไม่ได้เปิดไฟตลอด 24 ชม.
- การแก้ที่ดี คือ “การทำหลังคา” หรือขยายพื้นที่ให้เต็มในมุมที่ขาดแหว่ง

✦ Tip: ในการดูฮวงจุ้ยบ้านนั้น จะต้องมีการดูทั้งในส่วนของชัยภูมิ พลังทิศทาง และหลักในการพิจารณาเพิ่มเติมอื่น ๆ อีก ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง และไม่มีความสอดคล้องซึ่งกันและกัน การจัดฮวงจุ้ยย่อมไม่ส่งผลต่อบ้านของท่านนั่นเอง
✦ หากใครกำลังมองหาบ้านสวย ๆ มีสไตล์ ทั้งยังถูกหลักฮวงจุ้ย สามารถติดต่อสอบถามกับทาง อ.ชัญ ได้ที่ Line: @theluckyspace โดยมีแบบบ้านสำเร็จรูป 3 สไตล์สุดฮิต ทั้ง แบบบ้าน Modern แบบบ้าน Contemporary และแบบบ้าน Nordic ให้เลือกชมหลากหลายแบบ ถูกหลักฮวงจุ้ย และมีทีมงานมืออาชีพ รับออกแบบบ้านใหม่ โดยมีการวางผังโดยใช้หลักวิชาดาว 9 ยุค ประกอบการออกแบบ เพื่อมองหาปราณชี่ที่รุ่งเรือง และหลีกเลี่ยงปราณชี่ที่เสื่อมโทรม อีกด้วยค่ะ
อ.ชัญ thelucky ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย – www.theluckyspace.com